nintendo switch mortal kombat 11 ( english zone 1 )
ศัตรูตนใหม่ของ Mortal Kombat ในภาคนี้ก็คือ Kronika เธอได้เข้าแทรกแซงเวลา และทำการแก้ไขประวัติศาสตร์ใหม่ นั่นทำให้ตัวละครหลายๆ ตนกำลังจะหายไป บางตัวละครกลับต้องปะทะกับตนเอง ในขณะพันมิตรใหม่กำลังก่อตัว มันคือความโกลาหลอย่างแท้จริง และนี่คือจุดเริ่มต้นใหม่ของ Mortal Kombat ซึ่งในภาคนี้ระบบการต่อสู้หลากหลายมุมของ NetherRealm ถูกอัปเกรด และฟังก์ชัน Tutorials หรือโหมดการฝึกฝนก็มีประสิทธิภาพมากพอ ที่จะพาเราดำดิ่งสู่ Mortal Kombat 11 (MK11) ได้อย่างครบถ้วน และสมบูรณ์แบบ
รีวิว Mortal Kombat 11
การเปลี่ยนแปลง และการมาถึงของ Kronika ทำให้โหมดเนื้อเรื่องของตัวเกมน่าตื่นเต้น การต่อสู้มาพร้อมกับคัทซีนจำนวนมาก และการเล่นกับเวลาของ Kronika ทำให้เนื้อเรื่องของมันตอบรับได้ทั้งผู้เล่นเก่า และผู้เล่นใหม่ เพราะมันจะพาเราย้อนอดีตกลับไป และให้เราได้พบกับตัวละครต่างๆ ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ พร้อมเรื่องราวที่น่าติดตาม โดยเฉพาะเรื่องราวของแต่ละตัวละครว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทั้งในอดีต และในปัจจุบัน
รีวิว Mortal Kombat 11
แน่นอนว่าการปะทะกันของตัวละครวัยเด็ก และวันผู้ใหญ่เป็นไฮไลต์หลักของ Mortal Kombat ภาคนี้ นั่นทำให้โหมดเนื้อเรื่องของตัวเกมค่อนข้างสมดุล ไม่มีส่วนเกินมากจนเกินไป แม้ว่ามันจะมีเนื้อเรื่องที่ไร้สาระไปเสียหน่อย แต่นั่นก็เป็นเอกลักษณ์ และเรื่องปกติของซีรีส์นี้อยู่แล้ว สำหรับด้านตัวละครที่ปรากฎในภาคนี้เอง ก็ค่อนข้างโดดเด่นมากๆ ตัวละครเก่าๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวซีรีส์นั้นกลับมาครบถ้วน อีกทั้งยังหยิบตัวละครจากภาค X อย่าง Erron Black และ DVorah มาให้อีกด้วย มีตัวละครใหม่ถูกเพิ่มเข้ามาในซีรีส์นี้ ประกอบไปด้วย Geras ผู้มีพลังควบคุมเวลา Cetrion เทพอาวุโสผู้มีพลังควบคุมธาตุ และ Kollector ปีศาจผู้มีหกมือ และการโจมตีที่เดาทางได้ยากมากๆ อย่างไรก็ตามในภาคนี้ ตัวละครแต่ละตัวสามารถเลือกท่าพิเศษที่แตกต่างกันได้เหมือนในภาคก่อน และนั่นเกิดความหลากหลายในการต่อสู้ และสไตล์การเล่นของแต่ละตัวละคร อย่างไรก็ตามมันสามารถกำหนดได้เพียง 2 รูปแบบเท่านั้น
รีวิว Mortal Kombat 11
MK11 มีการเปลี่ยนแปลงในแง่กลไกลในการเล่นของตัวเกม ส่งผลให้ระบบต่อสู้มีความโดดเด่น และโหดกว่าภาคก่อนๆ ระบบมิเตอร์พิเศษมีการปรับให้ใช้งานได้ง่ายมากขึ้น ทำให้เราสามารถใช้ท่าพิเศษได้เกือบทุกช่วงเวลา นั่นทำให้เราจำเป็นต้องเซฟ 2 - 3 บาร์บนมิเตอร์ไว้สำหรับการใช้ในช่วงเวลาที่สำคัญเท่านั้น ทั้งนี้มิเตอร์มีการแบ่งไว้สำหรับท่าโจมตี และป้องกันโดยเฉพาะ และด้วยอัตราการเพิ่มขึ้นของบาร์บนมิเตอร์ที่รวดเร็ว ทำให้เราสามารถใช้ท่าพิเศษต่างๆ ได้อิสระมากขึ้นกว่าเดิม โดย Fatal Blows จะมาแทนที่เทคนิค MKXs X-Ray เป็นกลไกพิเศษที่สามารถเปิดใช้งานได้เพียงครั้งเดียวในขณะที่เลือดของตัวละครใกล้จะหมดลง นั่นทำให้เกิดโอกาสในพลิกล็อคมากขึ้น การบล็อกไม่สามารถปกป้องความเสียหายจากท่วงท่าพิเศษต่างๆ ของตัวละครได้อีกต่อไป และนั่นจึงก่อเกิดระบบ flawless block ที่จะใช้สำหรับลดความเสียหายจากท่าโจมตีลง และเพิ่มโอกาสในการสวนกลับมากขึ้น ตัวเกมได้ตัดมิเตอร์ของการวิ่ง และ Stamina ออกไป และนั่นทำให้การวิ่งรู้สึกว่าเร็วกว่าเดิม มันทำให้เราโฟกัสด้านระยะห่างในการต่อสู้ได้อยู่เสมอๆ การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ทำให้เราใช้ระยะเวลาในการต่อสู้ใน MK11 ที่น้อยลง